สงสัยกันไหม ? ทำไม Mascot Marketing หรือที่เรียกว่า “การตลาดมาสคอต” ที่มีมาตั้งแต่ก่อนกาล ถึงยังมีอยู่แม้จะเข้าสู่ยุคของดิจิทัล !?

อย่างที่เราเพิ่งได้เห็นน้องมาสคอตชื่อดัง “Butterbear” หรือ น้องหมีเนย ที่เป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้ น้องก้อนตัวแทนบาร์บิคิวพลาซ่าที่มีมากว่า 30 ปี รวมถึงน้องมาสคอตคุมะมงประจำจังหวัดคุมาโมโตะ ในประเทศญี่ปุ่น ต่างเป็นภาพจำที่ใคร ๆ เห็นก็อดเอ็นดูไม่ได้

ซึ่งน้อง ๆ เป็นกลยุทธ์มาสคอตแบรนด์ หรือการที่เราเลือกตัวแทนมาสื่อถึงแบรนด์ของเราให้จดจำง่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือสิ่งอื่น ๆ ที่บ่งบอกความเป็นตัวเราออกมาได้ พร้อมทั้งสื่อถึงความเป็นมนุษย์ผ่านความมีชีวิตชีวาของผู้สวมใส่ นับเป็นเทคนิคการสร้างภาพจำ การมีส่วนร่วมของลูกค้า และยังกลายมาเป็นกระแสไวรัลผ่านโลกโซเชียลมีเดียได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย !

ทำไม Mascot Marketing ที่เหมือนจะตีตลาดแค่โลก Offline ยังเป็นเทคนิคที่ยังใช้มาจนถึงยุคนี้ !?

ตอบง่ายๆ คือ ‘มาสคอต’ ไม่ใช่แค่ตัวละครแสนน่ารักที่ยืนอยู่หน้าร้านค้าเท่านั้น ! แต่เป็นหน้าตาและตัวแทนการสร้างภาพจำของแบรนด์ชั้นดี ให้คนจำภาพแบรนด์เราต่างจากคู่แข่งได้ง่ายมากกว่าเดิม บอกเลยว่านับเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้และฆ่าไม่ตายมาจนถึงทุกวันนี้

สำหรับยุคนี้ การใช้มาสคอตมาผนึกกำลังกับ Social Media หรือ โลกออนไลน์ ยิ่งทวีคุณความน่าสนใจได้มากขึ้นไปอีก ! นับเป็นการขยายฐานลูกค้า และสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มลูกค้าผ่านแคมเปญต่างๆ กับตัวน้องมาสคอตได้หลากหลายมากขึ้น พร้อมทั้งใช้โฆษณาในรูปแบบของ Free Marketing ผ่านกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย

แต่จะเลือกใช้มาสคอตยังไง..? ให้ตอบโจทย์ภาพจำของแบรนด์เราได้มากที่สุด !?

ต้องรู้จักกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของเราก่อนเป็นอันดับแรก ทำความเข้าใจความต้องการ ความชอบ อารมณ์ และความคาดหวังที่พวกเขามีกับตัวแบรนด์ เพื่อเลือกตัวแทนมาสคอตที่สามารถดึงดูดและสร้าง Impact ได้จริง

เลือกมาสคอตที่ “บ่งบอกความเป็นแบรนด์” เลือกจุดขายที่สามารถสื่อสารความเป็นแบรนด์ได้อย่างชัดเจน และแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง ช่วยสร้างภาพจำของ Brand Character ออกสู่สาธารณะได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

น้องมาสคอตต้องจำง่าย และพร้อมปรับตัวได้ในหลายสถานการณ์ เพื่อสร้างภาพจำและสามารถปรับใช้ได้ตามธีมของเทศกาลต่างๆ ได้

เน้นสร้างบุคลิกและการแสดงอารมณ์ให้กับตัวมาสคอต เพื่อให้ดูมีชีวิตชีวา สามารถสื่อสารกับกลุ่มผู้ชมหรือกลุ่มลูกค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ สร้างความประทับใจ และอาจกลายเป็นไวรัลจาก Character ของตัวมาสคอตได้อีกด้วย

#Tips อีกหนึ่งกลยุทธ์เสริมจากทาง Butterbear แบรนด์ที่เพิ่งถูกพูดถึงกันไปไม่นาน นอกจากเรื่องของคาแรกเตอร์ที่แตกต่าง และความน่ารักของน้องหมีเนยแล้ว ยังมีมุมของการใช้ Storytelling เข้ามาเสริมให้เป็นที่น่าจดจำ สร้างความรู้สึกดี ๆ ที่มัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด จนกลายมาเป็นน้องหมีชื่อดังอย่างตอนนี้นั่นเอง !