คุณรู้จักสายงานทั้ง 3 ตำแหน่งนี้ไหม !?
Data Analyst VS Business Analyst VS System Analyst
รู้หรือไม่ว่า ทั้ง 3 ตำแหน่งนี้ทำงานไม่เหมือนกัน
และสามารถสร้างประโยชน์ในการต่อยอดธุรกิจที่ต่างกัน!?
ปัจจุบันสายงานด้าน Data กำลังเป็นที่นิยมสูงมาก เพราะการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบริษัทต้องมี เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น และถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง
ถามว่าสำคัญจริงไหม ?? จากผลการคาดคะเนของ 30coherent พบว่า
🔹 ตลาดการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วโลก มีแนวโน้มเติบโตแตะ 132.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2569 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 30.08% ในช่วงระยะเวลา ตั้งแต่ปี 2559 ถึง 2569
*CAGR คือ อัตราการเติบโตแบบปีทบต้น ใช้เพื่อวัดการเติบโตของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (เช่น รายได้ ยอดขาย มุลค่าการลงทุน เป็นต้น) ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยคิดแบบเฉลี่ยต่อปีเติบโตแบบสม่ำเสมอทุกปี
🔹 ปัจจุบัน 3 ใน 5 องค์กรทั่วโลกกำลังนำการวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมทางธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
🔹 ในปี 2023 มีองค์กรกว่า 90% สามารถสร้างมูลค่าที่วัดผลได้ จากการลงทุนในข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ข้อมูลในเชิงกลยุทธ์
🔹 งานวิจัยพบว่า องค์กรที่ใช้การตัดสินใจโดยขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Decision Making) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้มากถึง 63% เมื่อเทียบกับองค์กรที่ยังไม่ใช้แนวทางนี้
สำหรับธุรกิจยุคปัจจุบัน ทั้ง 3 สายงานนับเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกองค์กร ซึ่งหัวหน้าหรือเจ้าของธุรกิจเองอาจจำเป็นต้องรู้และเข้าใจในความแตกต้างของแต่ละสายงาน ว่าทำงานแตกต่างกันอย่างไร? เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากความสามาถของแต่ละตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📌เปรียบเทียบให้ชัด📌
Data Analyst, Business Analyst, และ System Analyst มีจุดไหนที่ไม่เหมือนกัน !??
—-----------------------------------
1. Data Analyst หรือ DA หรือ นักวิเคราะห์ข้อมูล
คือ ผู้ที่ทำหน้าที่ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลแบบมีโครงสร้าง (Structured Data) จากหลากหลายแหล่ง เพื่อนำมาหาแนวโน้ม, สรุปเชิงลึก, และสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจ โดยใช้เครื่องมือและเทคนิคต่าง ๆ เช่น SQL, R, Python, Power BI, Tableau เป็นต้น
ตำแหน่งนี้ถือเป็นสายงานที่เน้นด้านเทคนิคและการวิเคราะห์เชิงตัวเลข ผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องมีทักษะด้านการจัดการข้อมูลจำนวนมาก และสามารถแปลผลข้อมูลให้เข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้ทีมธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
📈ทักษะที่ Data Analyst ควรมี
- ความรู้ด้านสถิติและวิเคราะห์ข้อมูล
- ทักษะการดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล เช่น SQL
- ทักษะการใช้โปรแกรมCoding เช่น R, Python
- ทักษะ Data Visualization เช่น การใช้ Tableau, Power BI
- ทักษะการจัดการข้อมูล (Data Management)
- ทักษะการออกแบบโมเดลข้อมูล (Data model design)
2. Business Analyst (BA) หรือ นักวิเคราะห์ธุรกิจ
คือ ผู้ที่มีหน้าที่หลักในการรวบรวม, วิเคราะห์, และแปลความต้องการทางธุรกิจ เพื่อนำมาใช้ในการออกแบบระบบ หรือแนวทางแก้ไขปัญหาทางธุรกิจที่เหมาะสม โดยตำแหน่งนี้จำเป็นต้องมีความเข้าใจด้านธุรกิจเป็นหลักและอาจจำเป็นต้องมีความรู้ด้านเทคนิค เพื่อให้สามารถประสานงานกับทีมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Business Analyst ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างทีมธุรกิจและทีม IT ช่วยเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าให้เข้ากับการพัฒนาระบบ ให้สามารถแก้ไขปัญหาเชิงธุรกิจได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งยังมีบทบาทในการนำเสนอข้อมูลเชิงวิเคราะห์ให้ง่ายต่อความเข้าใจ เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
📈ทักษะที่ Business Analyst ควรมี
- ทักษะการใช้ Microsoft Office เช่น Words, Power Point, Excel, Visio เป็นต้น
- ทักษะ Wireframe เพื่อใช้ทำงานร่วมกับทีม IT
- ทักษะการใช้ Coding เช่น SQL, R, Python เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
- ทักษะ Data Visualization เช่น การใช้ Tableau, Power BI เพื่อใช้ในการนำเสนอข้อมูล
- ทักษะด้านการสื่อสารและ Storytelling
3. System Analyst หรือ นักวิเคราะห์ระบบ
คือ ผู้ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ปัญหาและออกแบบระบบ IT หรือซอฟต์แวร์ ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน โดยมักจะต้องทำงานร่วมกับตำแหน่งอื่น ๆ เช่น Product Owner, Business Analyst, UX/UI Designer และ Developer เพื่อให้ระบบที่พัฒนาขึ้นตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ System Analyst ยังมีบทบาทในการสนับสนุนการทำงานทุกขั้นตอนของกระบวนการพัฒนาระบบ ไม่ว่าจะเป็น การเก็บความต้องการ (Requirements), การออกแบบระบบ (System Design), การพัฒนา (Implementation), การทดสอบ (Testing), การนำไปใช้งานจริง (Deployment), และการดูแลหลังการใช้งาน (Post-production Support)
📈ทักษะที่ System Analyst ควรมี
- ทักษะการวางแผน System Design
- ทักษะการใช้ Microsoft Office เช่น Words, Power Point, Excel
- ทักษะการใช้ SQL, R, Python เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
- ภาษาโปรแกรมและซอฟต์แวร์ เช่น Java, Python ,C++, C#
- ทักษะในการใช้ซอฟต์แวร์เสมือนจริง เช่น Microsoft Hyper-V, vSphere, KVM เป็นต้น
- ทักษะในการใช้ Database ต่าง ๆ เช่น MySQL, Oracle Database, Microsoft SQL Server, MongoDB, Google Cloud Spanner เป็นต้น
- ทักษะในการวิเคราะห์และตรวจสอบประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความพร้อมใช้งานของเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง
ทักษะที่แต่ละตำแหน่งต้องใช้ขึ้นอยู่กับบริษัท เพราะบางบริษัทอาจมีความต้องการในหน้าที่ที่ต่างกัน เช่น สำหรับบางบริษัท ตำแหน่ง Business Analyst อาจเน้นความรู้ความสามารถในการสื่อสารทางด้านธุรกิจ มากกว่าการใช้โค้ด แต่แน่นอนว่าการมีความรู้ด้านการใช้โค้ดได้เปรียบมากกว่า!
บอกเลยว่าทุกบริษัท ขาดตำแหน่งด้าน Analyst เหล่านี้ไปไม่ได้! เพราะเป็นอีกหนึ่งจุด ที่จะเข้ามาช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในแต่ละด้านของธุรกิจ กลายเป็นเรื่องที่มั่นใจได้มากยิ่งขึ้น!
ถ้าคุณกำลังมองหาตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ต้องเข้าใจก่อนว่าคุณต้องการให้พวกเขาเข้ามาช่วยบริษัทที่จุดไหน..?
#dataanalyst #businessanalyst #SystemAnalyst #businesstips #BusinessStrategy #ธุรกิจ #thebigblue #thebigblueocean #transformationbuddy #digitaltransformation #BBO