พาสรุปเทรนด์ Google Ads ที่น่าจับตา ปรับตัว และลองใช้ เพื่อผลักดันให้แบรนด์ของคุณโตไปข้างหน้าได้มากกว่าเดิม !
เพราะยุคนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงแทบทุกวัน การตามเทรนด์แบบเจาะลึกให้ทัน ถือเป็นการสร้างแต้มต่อให้กับแบรนด์
7 เทรนด์ Google Ads มาแรง พาแบรนด์คุณโตกว่าเดิมในปี 2025
1. พฤติกรรมการค้นหาของคนที่เปลี่ยนไป พาโอกาสใหม่ ๆ มาให้สายสร้างโฆษณา
- การค้นหาประโยครูปแบบ 5 คำขึ้นไป เติบโตได้เร็วกว่าการค้นหาคำสั้น ๆ กว่า 1.5 เท่า
- ภาพรวมการค้นหาบน Google มีการปรับใช้ AI พร้อมผสมผสานเข้ากับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM หรือ Large Language Model) เพื่อมาตอบโจทย์การค้นหาที่ลึกและซับซ้อนกว่าเดิม
- พฤติกรรมการค้นหาสิ่งที่ต้องการผ่านรูปภาพ กลายมาเป็นเรื่องทั่วไปที่นิยมมากขึ้น พบว่ามีการใช้ภาพค้นหาถึง 2 พันล้านครั้ง/เดือน และ 1 ใน 4 มีจุดประสงค์ในเชิงพาณิชย์!
2. ยุคที่การช้อปแบบ Virtual Try-On มาแรงกว่าการไปลองชุดจริง !?
- Shopping Tap ถูกโละและปรับใหม่ทั้งหมดในสหรัฐฯ โดยแต่ละคนจะมีฟีดหน้าแรกและดีลใหม่ ๆ ที่ต่างกันไปตามความสนใจของแต่ละคน รวมถึงฟีเจอร์ Try-On อีกด้วย
- จากการพัฒนาโมเดลของ Gemini เปิดให้ลูกค้าสามารถเลือกชุดแบบ Virtual Try-On ได้แบบสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยรวบรวมภาพนางแบบที่มีไซต์ต่างกันในชุดเดียวกัน เพื่อให้คุณมีโอกาสได้เห็นเสื้อผ้าเมื่อใส่จริงก่อนสั่งซื้อ
- อัพเดท Merchant Center Next ที่มี Product Studio ส่วนที่ใช้ AI ช่วยคุณสร้างสรรค์เนื้อหาโฆษณา, สามารถดูข้อมูลธุรกิจเชิงลึกได้ในที่เดียว, ให้คุณเปลี่ยนหน้าไปยังส่วนต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มได้ง่ายมากขึ้น
3. Creative Generation Solution ให้ธุรกิจสร้างและเปิดตัวโฆษณา ได้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม
- Gemini model เข้ามาสร้างการเข้าถึงเนื้อหาให้ง่ายกว่าเดิม ด้วย Search Campaign ที่รองรับได้หลากหลายภาษา
- เป็นฟีเจอร์ที่เน้นพัฒนามาเพื่อสนับสนุนกลุ่มธุรกิจใหม่ และธุรกิจขนาดเล็ก
- โฆษณาที่สร้างจากการใช้ประสบการณ์จากบทสนทนาบน Google Ads มีแนวโน้มที่จะเผยแพร่โฆษณาบน Search Campaign ได้ “ดี หรือ ดีเยี่ยม” ถึง 63%
- สามารถสร้างสรรค์เนื้อหารูปภาพได้บนหลายแพลตฟอร์ม (ขับเคลื่อนโดย Imagen 3) ซึ่งเป็นโมเดลการแปลงข้อความเป็นรูปภาพจาก Google ให้คุณประหยัดงบ พร้อมสร้างสรรค์งานได้เยอะและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
4. โฆษณารูปแบบวิดีโอคือจุดขายที่ทิ้งไม่ได้!
- Google AI ตัวช่วยใหม่ที่จะเข้ามาซับพอร์ทการตัดต่อ หรือจัดการวิดีโอของคุณตามความเหมาะสมแบบอัตโนมัติ
- เปิดตัวฟีเจอร์การเลือก Voice-Over ได้ตามที่เราต้องการจากทาง Google Ads พร้อมมีให้เลือกใช้ถึง 12 ภาษา
- โฆษณาแบบสั้น หรือ Shorts กำลังมาแรง ยอดชมสูงถึง 70,000 ล้านครั้ง/วัน ได้มีการปรับรูปแบบการขายของรูปแบบใหม่ พร้อมตัวเลือกให้แสดงโฆษณาบน Shorts เท่านั้นได้แล้ว!
5. Performance Max พาให้ควบคุมประสิทธิภาพของแบรนด์ง่าย และเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้มากขึ้น!
- เป็นตัวช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ บนช่องทาง/เครือข่ายของ Google ได้ง่ายมากขึ้น
- สร้างมาเพื่อเสริม Search Campaign โดยใช้คีย์เวิร์ดที่มีอยู่ ช่วยสร้าง Conversation ระหว่างแบรนด์และลูกค้าได้มากขึ้น
- ช่วยควบคุมการทำงานของ Ads แบบอัตโนมัติ อิงจากข้อมูลของตัวแคมเปญ
6. เพิ่มตัวเลือกการเสนอราคา แบบปรับแต่งตามรายบุคคล
- Performance Max สามารถช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งแคมเปญ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่เลิกใช้บริการให้กลับมาอีกครั้ง ลดการสูญเสียกลุ่มลูกค้าที่ยกเลิกการบริการ
- คุณสามารถเลือกสร้างเป้าหมายได้ทั้งในรูปแบบ “สร้างรายรับ และ สร้างกำไร” โดยเป็นการเสนอราคาในรูปแบบที่ต่างกัน ซึ่งคุณสามารถเลือกเสนอราคาที่เน้นทำกำไรได้ด้วย Smart Bidding
7. Google Ads และมุมของข้อมูล การวัดผล และความเป็นส่วนตัว
- เครื่องมือนี้ช่วยให้การเชื่อมโยงแหล่งข้อมูลปาร์ตี้แรกเข้ากับ Google Ads ง่ายขึ้น พร้อมรักษาความถูกต้องของรายการกลุ่มเป้าหมายและข้อมูล Conversion
- เพิ่มฟีเจอร์ การจับคู่ข้อมูลแบบปลอดภัย (Confidential Matching) สำหรับ Customer Match โดยเข้ารหัสข้อมูลปาร์ตี้แรกเพื่อใช้งานอย่างปลอดภัย โดยที่ไม่มีใคร รวมถึง Google สามารถเห็นข้อมูลได้
- นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาและอัพเดทฟีเจอร์ด้านอื่น ๆ มาเพื่อผสานความสามารถด้านการวัดผลโฆษณาเข้ากับการรักษาความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
#googleads #advertising #businesstips #businessgrowth #thebigblue #BBO3 #thebigblueocean #AI