5 กลยุทธ์ Karun พาตลาด(ชา)ไทย สู่ตลาดโลก !

“Karun” ธุรกิจชาไทยที่เริ่มต้นด้วยเงินเพียงแค่ 100,000 บาท แต่ทำรายได้พุ่งสูงถึง 36 ล้านบาท

ด้วยแนวคิดที่ว่า ‘Endless Possibility of Thai Tea’ หรือ ชาไทยเป็นไปได้ทุกอย่างไม่รู้จบ ของคุณรัส-ธัญย์ณภัคช์ ศิริประภาเจริญ เจ้าของแบรนด์ Karun ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กับคนรักชาไทยโดยเฉพาะ (Thai Tea Specialty)

Karun มีความมุ่งมั่นที่ต้องการมอบประสบการณ์ที่ดีและหาได้เฉพาะแค่แบรนด์ ทำให้แบรนด์วางตัวเองเป็น Luxury Thai Tea Brand ที่มีภาพลักษณ์พรีเมียม พร้อมที่จะส่งมอบชาไทยที่มีคุณค่าและเป็นมากกว่าชาไทยเพียงหนึ่งแก้ว และนอกจากนั้นยังคงขับเคลื่อนธุรกิจพร้อมด้วยกลยุทธ์ที่โดดเด่น
--------------------------
กลยุทธ์ที่ทำให้ Karun แบรนด์ชาไทย ที่ไปไกลกว่าแค่ชาไทย

📌 สร้าง Brand Positioning ให้แข็งแรง
การรู้จักตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ส่งผลโดยตรงต่อการมอบประสบการณ์และ Core Value ให้ลูกค้า และเมื่อเรารู้จักแบรนด์อย่างแท้จริง เราก็ยังสามารถสร้างแบรนด์ได้ในทางอ้อมโดยที่ลูกค้าอาจคาดไม่ถึง เช่น การใส่ตัวตนและอัตลักษณ์ของแบรนด์ลงไปใน Packaging และการบริการ

📌 การหากลุ่มลูกค้าที่ถูก ถือเป็นหนึ่งในวิธีการทำการตลาด
ด้วยยุคสมัยที่โซเชียลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ทำให้การบอกต่อและการลงโซเชียลเป็นสิ่งสำคัญในยุคนี้ และกลุ่มคนที่ลงโซเชียลเองก็เป็นกลุ่มคนที่มีความสนใจในสินค้าที่เป็นสินค้าพรีเมียม ทำให้แบรนด์ได้ประโยชน์การบอกต่อและโปรโมทจากลูกค้า

📌 ใช้คู่แข่งให้เป็นประโยชน์
หลายครั้งที่เราอาจมองว่าคู่แข่งเป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่ Karun กลับมองว่าคู่แข่งเป็นสิ่งที่จะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จเร็วมากขึ้น เช่น ช่วยเพิ่มมูลค่าและส่งเสริมให้ตลาดมีคุณค่ามากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคู่แข่งก็ยังคงเป็นคู่แข่ง เพียงแต่สิ่งที่เราต้องทำคือ หาความแตกต่างของธุรกิจเรา

📌 หาพื้นที่ที่ใช่ ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
การให้ความสำคัญกับการตั้งโลเคชันของร้าน โดยคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก นอกจากจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ตรงจุดให้กลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังคงช่วยลดต้นทุนในการโฆษณาได้อีกด้วย

📌 พนักงาน ที่ไม่ใช่แค่ทำงาน
การใส่ใจและส่งเสริมในการทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพ ศักยภาพ และมีทักษะที่ดีในการมอบคุณค่าของสินค้าและมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ

นอกจากนั้นแล้ว Karun มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยการก้าวออกไปในตลาดต่างประเทศ โดยประเทศแรกที่จะขยายไปคือ สิงคโปร์ และยังคงตั้งมั่นในการทำแบรนด์ให้เป็น Global Brand โดยผลิตภัณฑ์ชาไทยที่มีเอกลักษณ์จากประเทศไทย